ปัจจัยที่มีต่อผื่น “โรคภูมิแพ้ผิวหนัง” Atopic Dermatitis (AD)

ในผู้ป่วย Atopic Dermatitis นั้น ปัจจัยที่มีผลต่อสุขภาพผิว ได้แก่

1. Natural Moisturizing Factors (NMF)

ซึ่งหากไม่สามารถทํางานได้ปกติ ผิวจะสูญเสียความชุ่มชื้นง่าย เกิด TEWL (Transepidermal Water Loss) หรือการสูญเสียน้ำจากชั้นผิวโดยน้ำระเหยจากผิวชั้นนอกสุด

2. Skin barrier

หากมีภาวะ Impaired skin barrier หรือเกราะปกป้องผิวอ่อนแอ จะทำให้สารระคายเคือง สารก่อภูมิแพ้ หรือเชื้อโรคต่างๆ กระตุ้นให้ผิวอักเสบระคายเคืองได้ง่าย

3. Antimicrobial peptides (AMPs) ที่มีคุณสมบัติเป็น Natural Antibiotics

หากมีปริมาณน้อย จะทำให้ผิวมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ผิวหนังที่สุขภาพดีจะสามารถผลิต AMPs นี้ได้ตามธรรมชาติ

4. Ceramides

ที่จะมีน้อยลงตามวัย หรือตามคุณภาพผิว หากมีน้อย จะทำให้ผิวเกิดช่องโหว่ ขาดแรงยึดเหนี่ยวที่ช่วยให้เซลล์ผิวแนบติดกันและแข็งแรง

จากการศึกษาเปรียบเทียบผิวหนังของคนปกติ และผู้ป่วย Atopic Dermatitis(AD) พบว่าผิวของผู้ป่วย AD มีความหนาแน่นของปริมาณแบคทีเรีย Staphylococcus Aureus หรือ S.Aureus ในปริมาณที่มากกว่า และ 85.7%-100% ของคนไข้ AD พบ S.Aureus ที่ผิวหนัง ขณะที่พบเพียง 2-25% ในคนปกติ เจ้าแบคทีเรียตัวร้าย S.Aureus นี่เอง ที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อและอักเสบในผู้ป่วย AD

ซึ่งเราสามารถยับยั้ง และทำลาย S.Aureus ได้ด้วย Amino Acid หรือ Peptides และพบว่าการใช้ AMP booster เช่นพวก Peptides ต่างๆ นั้น สามารถช่วยเติมเต็มให้ผิว โดยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อแทรกซ้อนที่ผิวหนังได้

ดังนั้น นอกจากการดูแลผิวขั้นพื้นฐานให้สุขภาพดี แข็งแรงยืดหยุ่น โดยโฟกัสที่ NMF และ Skin barrier เพื่อไม่ให้เสียความชุ่มชื้นและเกิดช่องว่างที่แบคทีเรียสามารถแทรกลงสู่ผิวได้ง่ายแล้ว ในผู้ป่วย AD เรายังควรพิจารณาเลือก peptides ดีๆ เพื่อเติมผิว ชดเชย AMPs ที่พร่องไปในผู้ป่วย AD ช่วยทำให้ผิวได้รับการฟื้นฟู ปกป้อง และมีภูมิคุ้มกันผิวที่ดีขึ้นได้ เติมช่องโหว่ชั้นผิว ให้ผิวอิ่มฟู แน่น และแข็งแรงด้วย Ceramide เพื่อไม่ให้ Allergen และ Pathogen แทรกสู่ชั้นผิวและก่อให้เกิดการติดเชื้อหรืออักเสบได้ง่าย

ขอบคุณข้อมูลจาก

• Transepidermal Water Loss - an overview | ScienceDirect Topics.
• Higaki S et al, Comparative study of staphylococci from the skin of atopic dermatitis patients and from healthy subjects, Int J Dermatol 1999
• Leung DYM, The role of Staphylococcus aureus in atopic eczema. Acta Derm Venereol Suppl 216: 21-27 (2008)